พันธุ์มะนาว

               พันธุ์มะนาวที่ปลูกกันอยู่ในในประเทศไทยปัจจุบันมีอยู่หลายพันธุ์บางพันธุ์ก็มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมาก บางพันธ์ก็มีความสำคัญทางเศรษฐกิจน้อย และบางพันธุ์ก็ไม่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเลย การปลูกหรือความนิยมของเกษตรและประชาชนทั่วไป ก็ขึ้นอยู่กับความสำคัญของมะนาวแต่ละพันธุ์ พันธุ์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจดี หรือมีความสำคัญทางเศรษฐกิจมาก ก็มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วไป พันธุ์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจน้อย ก็มีการปลูกกันบางเฉพาะพื้นที่ส่วนพันธ์ที่ไม่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเลย ก็ไม่ค่อยนิยมปลูกกัน หรือที่ปลูกอยู่แล้วก็จะถูกทำลายทิ้งไป พันธุ์มะนาวที่นิยมปลูกอยู่ในประเทศไทย และได้มีการรวบรวมไว้เป็นหลักฐานในขณะนี้ได้แก่

1.
มะนาวหนัง  

ลักษณะต้นเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 2-5 เมตร แตกก้านสาขาเป็นระเบียบ กิ่งอ่อนมีลักษณะเป็นเหลี่ยมเขียวจาง เมื่อโตขึ้นจะกลมและมีสีเข้มขึ้น ต่อมาสีของกิ่งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และในที่สุดเมื่อแก่มากๆ จะเป็นสีเทา ตามกิ่งจะมีหนามแหลมและแข็ง มีทั้งหนามสั้นและหนามยาว โคนหนามมีสีเขียว ปลายหนามมีสีน้ำตาล รอยต่อสีเขียวและสีน้ำตาลมักมีสีขาวเห็นชัดเจน เมื่อกิ่งแก่หนามจะแห้งและตายไป ลักษณะของใบเมื่อยังอ่อนอยู่จะเป็นสีเขียวจางเกือบเป็นสีขาวเมื่อใบแก่ขึ้นจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม ผิวใบละเอียดเป็นมัน ใบเป็นรูปไข่ ปลายใบค่อนข้างป้าน หรือค่อนข้างแหลม มักมีร่องลึกสลับกับร่องตื้นหรือบางทีเป็นหยักละเอียด แผ่นใบมีความกว้างประมาณ4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 เซนติเมตร เมื่อออกดอกพบว่าดอกเมื่อเล็กๆ มีสีเขียว บางทีพบสีม่วงที่กลีบนอกบ้าง เมื่อดอกโตขึ้นกลีบชั้นในจะมีสีขาวชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนพวกที่มีสีม่วงแดงหรือแดงเรื่อๆเห็นได้ชัดเมื่อยังเล็กนั้น จะจางหายไปเป็นสีขาวบริสุทธิ์เมื่อดอกโตเต็มที่แล้ว เมื่อดอกบานกลีบในจะเห็นมีปลายแหลม เกสรตัวผู้มีสีเหลืองชัดมาก ความกว้างของดอกเมื่อบานเต็มที่กว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร และเมื่อดอกได้รับการผสมพันธุ์จนกลายเป็นผลพบว่าผลอ่อนมีลักษณะกลมยาวหัวท้ายแหลม เมื่อโตขึ้นจะค่อยๆสั้นเข้า หัวท้ายเริ่มมนเข้า ผลโตเต็มที่ส่วนมากจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีกลมมนบ้างเล็กน้อยถ้าหัวมีจุกก็เป็นเพียงจุกเล็กๆเตี้ยๆ ผิวเปลือกเรียบและเปลือกบาง เมล็ดมีลักษณะเรียบไม่มีลายเส้น เป็นพันธุ์ที่มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมมาก

2.
 มะนาวไข่



ลักษณะเป็นพุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ
2-5 เมตร มีขนาดและลักษณะคล้ายมะนาวหนังเกือบทุกอย่าง แผ่นใบมีขนาดความกว้างประมาณ 3.3  เซนติเมตร ยาวประมาณ 5.5เซนติเมตร ดอกจะเกิดบริเวณซอกใบ ดอกบานมีความกว้างประมาณ 2.25 เซนติเมตร เมื่อเจริญเป็นผลอ่อนผล

3.
มะนาวทะวาย

เป็นมะนาวที่นิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน เพราะเป็นพันธุ์มะนาวที่ให้ผลดก และให้ผลได้ทั้งปี จึงนิยมปลูกเป็นการค้า และปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งบริเวณบ้านได้ดีอีกด้วย มะนาวทะวายมีหลายพันธุ์ได้แก่

ก.     พันธุ์แม่ไก่ไข่ดก  มะนาวพันธุ์นี้มีลักษณะผลกลม ผลขนาดกลางแต่ดกดีมาก ให้ผลได้เกือบตลอดปี ปลูกในกระถางก็สามารถให้ผลผลิตได้ นอกจากนี้ยังมีพุ่มและใบที่สวยงามเหมาะที่จะปลูกเป็นเป็นไม้ประดับไว้ในบริเวณบ้าน
ข.     พันธุ์แป้นรำไพ  มะนาวที่มีลักษณะทรงผลแป้นขนาดของผลใหญ่กว่าพันธุ์แม่ไก่ไข่ดก
ค.     พันธ์แป้นทะวาย   ทรงผลมีลักษณะแป้น ผลมีขนาดปานกลาง ลักษณะที่ดีเด่นคือ มีเปลือก

4.
มะนาวพม่า

ลักษณะต้นเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น สูงประมาณ
3-5 เมตร การแตกออกของกิ่งก้านไม่ค่อยเป็นระเบียบ กิ่งอ่อนมีสีม่วง ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวจางมีลักษณะเป็นเหลี่ยม เมื่อกิ่งเจริญเติบโตเต็มที่จะมีสีเขียวเข้มและกลม ในที่สุดจะกลายเป็นสีน้ำตาลหรือเทา เมื่อแก่มากๆ จะมีหนามน้อย หนามมีลักษณะสั้นๆ ส่วนตามกิ่งกระโดงอาจมีหนามยาวบ้าง ลักษณะของใบเมื่อยังอ่อนอยู่มีสีม่วงเกือบเข้ม ผิวใบมีลักษณะค่อนข้างหยาบเห็นเส้นใบที่แตกออกจากเส้นกลางใบได้ชัดเจนมาก ใบค่อนข้างยาวฐานใบมีลักษณะมน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร จัดเป็นมะนาวที่ใบใหญ่ที่สุดในบรรดามะนาวที่ปลูกกันทั่วๆไป ลักษณะดอกตูมเมื่อยังเล็กๆ กลีบนอกตามขอบจะมีส่วนเรื่อๆ ยิ่งที่ปลายยิ่งมีสีเข้มมาก กลีบในด้านนอกมีสีม่วงแดงเข้ม เมื่อดอกตูมเต็มที่มีสีม่วงแดงจะจางลงบ้างเมื่อดอกบานด้านนอกของกลีบในจะมีสีม่วง ตามขอบในจะมีสีขาวส่วนมากจะเป็นดอกสมบรูณ์ กลีบในยาว ปลายกลีบมน มะนาวพม่าเป็นมะนาวที่มีดอกโตที่สุด คือกว้างประมาณ 4-4.5 เซนติเมตร และเป็นพันธ์ที่มีดอกมีเกสรตัวผู้มากที่สุดด้วย เมื่อดอกได้รับการผสมพันธุ์จนกลายเป็นผลแล้วพบว่า ผลอ่อนมีรูปทรงกระบอกยาวหัวและก้นแหลม เมื่อผลโตขึ้นจะโป่งออกเรื่อยๆ หัวและก้นแหลมน้อยลง ผลจะค่อยๆกลม ผิวของผลเมื่อยังเล็กอยู่จะมีร่องตามความยาวและขรุขระ จนผลโตขึ้นร่องจะค่อยๆ หายไปและมองไม่เห็นเมื่อผลโตเต็มที่จะมีจุกเล็กเตี้ยๆ ที่ก้นมีจุกแหลมเล็กผิวของเปลือกหยาบและมีปุ่มมาก ผลมีขนาดโตเท่ากับผลของส้มเขียวหวานเป็นพันธุ์ที่มีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมน้อย

5.มะนาวโมฬี


มีลักษณะลำต้นเป็นไม้พุ่ม หรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูงประมาณ
1-2 เมตร กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมๆมีสีเขียวจาง อาจมีสีม่วงจางๆปนเล็กน้อยเมื่อกิ่งโตเต็มที่จะกลมและมีสีเขียวกิ่งแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือเทา มีหนามแข็งอยู่ทุกซอกทุกมุมใบ โคนกิ่งมีหนามยาว ส่วนปลายกิ่งมักมีหนามสั้น ลักษณะใบอ่อนมีสีม่วง ผิวใบค่อนข้างหยาบ ปลายใบมน ขอบใบตื้น ฐานใบใหญ่มากคล้ายรูปหัวใจคล่ำ ขนาดแผ่นใบกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6.5 เซนติเมตร ขณะที่ดอกตูมเล็กๆกลีบนอกตามขอบและกลีบในนั้นจะค่อยๆจางหายไปจนในที่สุดเมื่อดอกตูมโตเต็มที่ใกล้จะบานจะมีสีขาว เมื่อดอกบานจะเห็นปลายกลีบในมน เมื่อดอกได้รับการผสมแล้วจะเห็นสีแดงเรื่อๆ ตรงกลางบ้าง รังไข่จะกลม มีก้นมนและมีลักษณะแหลมทางหัวเล็กน้อย ขนาดความกว้างของดอกเมื่อดอกบานจะกว้างประมาณ 2.5 เซนติเมตร ลักษณะผลจะกลมโต แต่ส่วนก้นจะกลมแป้น มีเปลือกหนาแข็ง ผิวค่อนข้างเรียบไม่มีรอยตะปุ่มตะป่ำ เมล็ดมีลายเส้นเห็นชัดเจน เป็นพันธ์ที่มีรสเปรี้ยวแต่มีกลิ่นหอมน้อย ข้อดีของมะนาวพันธุ์นี้คือมีลำต้นใหญ่แข็งแรงเหมาะสำหรับใช้ทำเป็นต้นตอ แล้วเอาพันธุ์อื่นที่ดีกว่ามาทาบกิ่ง ติดตาหรือต่อยอด

6.
มะนาวเตี้ย


ลักษณะต้นเป็นทรงพุ่มเตี้ยๆ สูงประมาณ
0.5-1 เมตร นิยมปลูกใส่กระถางหรือภาชนะต่างๆจึงมักเรียกว่ามะนาวกระถาง จะให้ผลผลิตเร็วกว่าพันธ์อื่นๆ ถ้าปลูกด้วยเมล็ดและมีการบำรุงรักษาที่ดี ประมาณครึ่งปีก็จะเริ่มให้ผลลักษณะลำต้นและกิ่งโดยทั่วไปเหมือนมะนาวหนังและมะนาวไข่ มีหนามสั้น และรอยต่อระหว่างสีเขียวและสีน้ำตาลจะมีสีขาวเล็กน้อยหรือเกือบไม่มีเลย ใบมีลักษณะเป็นรูปยาวใบมน ใบมีสีเขียว ผิวละเอียดมาก ก้านใบมีปีกแคบๆความกว้างของแผ่นใบจะแคบมากดังนั้นลักษณะของใบจึงค่อนข้างไปทางด้านยาว ขณะที่ดอกตูมจะมีสีเขียวจาง เมื่อตูมเต็มที่จะมีสีขาวบริสุทธิ์ ลักษณะทั่วไปอื่นๆ เหมือนมะนาวหนัง และมะนาวไข่ ความกว้างของดอกเมื่อบานจะกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อได้รับการผสมและกลายเป็นผล ผลจะมีลักษณะมนหรือยาวเล็กน้อย ด้านหัวมีจุก ส่วนด้านก้นจะมีลักษณะแป้น ตรงกลางมีจุกแหลมยาวเล็กๆ ของเกสรตัวผู้ติดอยู่ ผิวของผลค่อนข้างหยาบ เมล็ดมีสีค่อนข้างเหลือง ถ้าทิ้งไว้นานจะมีสีเหลืองจัด เป็นพันธุ์ที่มีรสเปรี้ยวและกลิ่น

7.
มะนาวด่านเกวียน


  
เป็นมะนาวพันธุ์ใหม่ที่ได้ขึ้นทะเบียนพันธุ์โดยกรมวิชาการเกษตร เมื่อปี พ.. 2538 เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงปานกลาง มีระบบรากลึก ทรงพุ่มกว้างประมาณ 2-3 เมตร สูงประมาณ 4 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาดี มีหนามตามกิ่งก้านแต่หนามเล็ก ใบสีเขียว กว้างยาวประมาณ 3.5x6 เซนติเมตร มีกลิ่นฉุนดอกเมื่อบานมีสีขาว ออกดอกตั้งแต่โคนกิ่งถึงปลายกิ่ง ผลเมื่ออ่อนมีสีเขียว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.0-1.5 เซนติเมตร เริ่มมีน้ำเต็มผล เมื่อผลแก่เต็มที่จะมีสีเหลือง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 เซนติเมตร เปลือกไม่ขม เปลือกบางไม่มีกลิ่นฉุน มีรสเปรี้ยว เมื่อผลโตเต็มที่ผลคล้ายส้มเกลี้ยง ส้มซ่าหรือส้มตรา ให้ผลดกตลอดปีผลมีน้ำมาก ทนแล้งและทนต่อโรคแคงเกอร์

8.
มะนาวปีนัง
เป็นพันธุ์ที่มีลักษณะผลกลมยาว โตกว่ามะนาวหนังก้นแหลมคล้ายไข่เต่า เปลือกหนามมีกลิ่นหอม ใบเหมือนมะนาวทั่วไป มีลักษณะทรงพุ่มสวยงาม สามารถปลูกเป็นไม้ประดับได้ดี

9.
มะนาวตาฮิติ


มะนาวตาฮิติเป็นมะนาวพันธุ์ต่างประเทศซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้นำมาจากหมู่เกาะตาฮิติ เพื่อทำการศึกษาค้นคว้า และพบว่ามะนาวพันธ์นี้สามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกภูมิภาคในประเทศไทย ขนาดของผลโตมาก เปลือกผลหนา เมื่อแก่จัดผลก็มีสีเขียวเข้มเหมือนเดิม มีน้ำมาก มะนาวพันธ์นี้มีลักษณะดีอยู่อย่างหนึ่ง คือในผลจะไม่มีเมล็ดอยู่เลย ดังนั้นการขยายพันธุ์จึงไม่สามารถใช้วิธีเพาะเมล็ดได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีตอน ติดตา ต่อยอด ต่อกิ่ง หรือวิธีอื่นๆ ที่เป็นการขยายพันธุ์โดยไม่ใช้เพศเท่านั้น  นอกจากนี้ยังมีมะนาวพันธุ์อื่นๆ ซึ่งมิได้มีการรวมไว้เป็นหลักฐานชัดเจน แต่เท่าที่นิยมปลูกกันมากในปัจจุบัน ได้แก่มะนาวพวกที่เป็นพันธุ์ทะวาย เพราะสามารถให้ผลได้ตลอดปีและให้ผลผลิตต่อพื้นที่ปลูกสูงมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น