การเลือกพื้นที่ปลูกมะนาว


การเลือกพื้นที่ปลูกนับเป็นขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะทำให้การปลูกมะนาวประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว เพราะมะนาวเป็นพืชที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากกว่าไม้ผลอื่นๆ อีกหลายชนิด จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและทั่วถึงตลอดทั้งปี การที่เราสามารถเลือกพื้นที่ปลูกได้เหมาะสม จะสามารถควบคุมดูแลได้โดยง่าย ช่วยประหยัดทั้งเวลาและต้นทุนการผลิตลงได้มาก สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกพื้นที่ปลูกมะนาวมีดังนี้คือ
1.
ดิน 




มะนาวสามารถขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว ดินทราย หรือดินลูกรัง ปลูกได้ตั้งแต่ที่ดอนจนถึงที่ลุ่ม แต่ตามปกติแล้วมะนาวจะเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีการระบายน้ำได้ดี ไม่ชอบที่ต่ำมีน้ำขังแฉะ ระดับหน้าดินควรลึกอย่างน้อยประมาณ 1 เมตร เพราะรากมะนาวทั่วไปสามารถหยั่งลึกลงในดินได้ถึง 5 เมตร การปลูกมะนาวในที่ดอนจะได้ต้นมะนาวที่ใหญ่โต อายุยืน เพราะรากสามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ แพร่ขยายไปหาอาหารได้ไกลๆ ส่วนการปลูกมะนาวในที่ลุ่มหรือแบบยกร่องสวนนั้นระบบรากจะถูกจำกัดอยู่ในที่แคบๆ ทำให้ต้นมะนาวมีขนาดเล็กกว่า อย่างไรก็ตาม การที่จะปลูกมะนาวให้เจริญงอกงามมีผลดกและคุณภาพดีควรปลูกในพื้นที่ดินโปร่ง ดินค่อนข้างอุดมสมบรูณ์ มีอินทรียวัตถุมาก เป็นพื้นที่ลาดเทเล็กน้อยมีการระบายน้ำดี และมีความเป็นกรดด่างของดินประมาณ 5.6-6 ถ้าสามารถเลือกพื้นที่ที่ดินมีความเหมาะสมอยู่แล้ว ก็จะลดต้นทุนในการผลิตลงได้มาก เพราะการปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบรูณ์และมีสภาพที่เหมาะสมจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ในด้านความอุดมสมบรูณ์ของดิน ธาตุอาหารหรือสภาพที่เป็นกรดด่างของดิน ควรได้นำดินไปตรวจวิเคราะห์ดูเสียก่อนเพื่อความแน่ใจสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรนำมาพิจารณาคือ พื้นที่นั้นจะต้องไม่เคยมีประวัติว่าเป็นโรคแมลงระบายอย่างรุนแรงมาก่อนโดยเฉพาะเชื่อโรคแมลงที่อยู่ในดิน เพราะพวกนี้ป้องกันกำจัดยาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก และเสี่ยงต่อผลร้ายที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง


2.น้ำ


  
แม้มะนาวเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย แต่มีความต้องการน้ำมากพอสมควร น้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการปลูกมะนาวอีกปัจจัยหนึ่ง มะนาวต้องการน้ำตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนกระทั่งติดผล ถ้ามะนาวขาดน้ำในช่วงแรกๆ นี้ จะทำให้ต้นมะนาวเติบโตช้าแคระแกร็นการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ต้นมะนาวเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้น หลังจากมะนาวเริ่มให้ผลแล้วก็ยังต้องการน้ำเป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอเรื่อยไปจนกว่าผลมะนาวจะแก่ ในระยะมะนาวติดผลนี้ ถ้ามะนาวขาดน้ำจะเหี่ยวเฉาเจริญเติบโตช้า ให้ผลไม่ดก ผลที่ได้มีคุณภาพไม่ดี เช่น ผลมีขนาดเล็กกว่าปกติ ผลแคระแกร็น แข็ง หรือมีเนื้อฟ่าม เป็นต้นน้ำจึงมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของต้นและคุณภาพของผลมะนาวมาก นอกจากนี้น้ำยังเป็นตัวละลายแร่ธาตุๆ ในดินให้พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ ไม่ว่าดินจะอุดมไปด้วยอินทรียวัตถุเพียงใดถ้าขาดน้ำเสียงแล้วก็ไม่มีประโยชน์กับมะนาวแต่อย่างใด ดั้งนั้นการเลือกพื้นที่ปลูกมะนาว ควรเลือกที่ใกล้แหล่งน้ำ สามารถให้น้ำแก่ต้นมะนาวได้ในเวลาที่ต้องการโดยการลงทุนที่ไม่สูงมากนัก นอกจากนี้มะนาวยังแตกต่างจากผลไม้อื่นๆ คือ ต้องมีการให้น้ำและงดน้ำเป็นช่วงๆ แหล่งน้ำและวิธีการให้น้ำที่สะอาด ประหยัด และเพียงพอจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก

3.
 อุณหภูมิ 


อุณหภูมิหรือความร้อนหนาวของอากาศไม่ค่อยจะมีผลต่อการปลูกมะนาวในบ้านเรามากนัก แต่ก็ควรคำนึงถึงไว้บ้าง ถ้าอากาศหนาวเย็นเกินไปจนถึงจุดเยือกแข็ง อาจทำให้ต้นมะนาวตายได้หรืออากาศร้อนจัดเกินไป ก็จะทำให้ใบมะนาวไหม้หรืออาจตายได้แต่โดยทั่วไปอุณหภูมิมักมีผลกระทบต่อคุณภาพของผลผลิตมากกว่าโดยทำให้สีของผิวและเนื้อผลมะนาวแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้อุณหภูมิยังมีผลทางอ้อมต่อการเจริญเติบโตของต้นมะนาว เช่น อากาศร้อนก็จะคายน้ำมากขึ้น ทำให้ใบเหี่ยวเฉา เป็นต้น

4. ความชื้นในอากาศ 

ความชื้นในอากาศมีผลต่อต้นมะนาวและคุณภาพของผลมะนาวเช่นกัน เช่น ถ้าความชื้นในอากาศมีน้อยจะทำให้เปลือกมะนาวหนาขึ้นความชื้นมากเปลือกจะบางหรือถ้าวามชื้นในอากาศมีน้อยใบมะนาวจะหอตั้งขึ้น เป็นต้นถ้าความชื้นในอากาศมีน้อยเกินไปอาจแก้ไขด้วยการปลูกพืชอย่างอื่นแซมในแปลงปลูกมะนาวบ้าง เช่น ต้นกล้วย ต้นทองหลาง เป็นต้น แต่อย่าปลูกพืชอื่นมากเกินไปจนแสงแดดส่องไม่ถึงพื้นหรือโคนต้นจะทำให้โรคและแมลงหลายชนิดระบาดทำลายต้นมะนาวได้ง่ายช่วงการบังคับทำให้มะนาวออกดอก ไม่ควรให้มีความชื้นในอากาศมากเพราะจะทำให้มะนาวดอกน้อย หรือไม่ออกดอกเลย

5.ลม 
ลมมีผลกระทบต่อมะนาวหลายประการ ลมมีความเร็วสูงย่อมทำให้น้ำในดินระเหยไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นดินแห้งลดความชุ่มชื้นของดินลง จำเป็นต้องให้น้ำมากกว่าปกติเพราะความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของมะนาว ลมที่พัดแรงๆจะทำให้ยอดและกิ่งมะนาวฉีกหักเสียหาย หรือทำให้ต้นหักหรือโค่นล้มได้ง่ายเพราะมะนาวที่ปลูกกันทั่วๆไปนิยมใช้กิ่งตอนปลูกเป็นส่วนมากระบบรากจึงไม่แข็งแรงเท่าที่ควร โดยเฉพาะในที่ลุ่มรากมะนาวถูกจำกัดอยู่ในวงแคบๆ นอกจากนี้แรงของลมยังทำให้ดอกหักเสียหาย 
ดอกเกิดการร่วงหล่นมาก เมื่อติดผลแล้วก็จะทำให้ผลร่วงหรือเสียดสีกันทำให้ผิวผลเสีย มีรอยตำหนิหรือรอยแผลซึ่งเป็นช่องทางให้โรคแมลงเข้าทำลายได้ง่ายขึ้น ดังนั้นในแปลงปลูกมะนาวในที่โล่งๆ และมีลมพัดแรงเป็นประจำ ควรปลูกไม้กันลมเพื่อปะทะลมไว้ โดยปลูกเป็นแถวรอบแปลงมะนาว อาจใช้ไม้สน ไม้ไผ่รวกหรือต้นยูคาลิปตัสก็ได้ ไม้เหล่านี้นอกจากจะช่วยกันลมให้แรงลมอ่อนตัวลงแล้ว ยังช่วยรักษาความชื้นในแปลงปลูกได้อีกด้วย
6.  การคมนาคม  การคมนาคมก็เป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการเลือกพื้นที่ปลูกมะนาว ถ้าแหล่งปลูกมะนาวอยู่ใกล้ตลาดใกล้ชุมชน  การเดินทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเรือ ทางรถ ก็สามารถทำได้สะดวก ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าพื้นที่ปลูกไกลๆ ค่าใช้จ่ายประเภทนี้มักมองไม่เห็นเป็นตัวเงินเหมือนค่าใช้จ่ายประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปดูแลสวน การติดต่องานต่างๆ การซื้อปุ๋ยซื้อยาและวัสดุต่างๆ รวมทั้งการลำเลียงผลผลิตออกสู่ตลาด แต่ถ้าคิดดีๆ ปีหนึ่งๆ ต้องเสียค่าใช้จ่ายพวกนี้ไม่ใช่น้อย ดังนั้นพื้นที่ปลูกมะนาวควรเลือกแหล่งที่ไม่ไกลจากตลาดซื้อขายปัจจัยการผลิตและตลาดซื้อขายผลผลิตมากนัก

7. อื่นๆ  นอกจากข้อพิจารณาต่างๆดังได้กล่าวมาแล้วสภาพนิสัยใจคอของผู้คนที่อยู่แหล่งทำสวน ก็เป็นสิ่งจำเป็นจะต้องคำนึง เพราะถ้าเป็นแหล่งที่มีผู้คนนิสัยอันธพาล หรือมีอิทธิพลเจ้าของสวนอาจจะโดนแกล้งด้วยวิธีการต่างๆซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญหมดกำลังใจ หรืออาจทำให้ขาดทุนย่อยยับต้องเลิกรากิจการไป โดยเฉพาะเจ้าของสวนที่ไม่ใช่คนในท้องถิ่นนั้น การที่จะเลือกพื้นที่ทำสวนมะนาวหรือการเกษตรใดก็ตาม ควรสืบทราบความเป็นอยู่และนิสัยใจคอของเพื่อนบ้านแถวนั้นเสียก่อน เพื่อประกอบกันกับความเหมาะสมด้านอื่นๆ ด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น